สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 3
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 290
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,204,184
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
25 เมษายน 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
 
10  11  12  13 
14  15  16  17  18  19  20 
21  22  23  24  25  26  27 
28  29  30         
             
 
ไปทะเล...กินอาหารทะเล
[18 เมษายน 2554 10:39 น.]จำนวนผู้เข้าชม 5045 คน



อาหารที่มาจากท้องทะเล
     ทะเลเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของโลก เราสามารถสรรหาและผลิตของที่จำเป็นในการดำเรงชีวิตได้มากมายจากสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในทะเลไม่ว่าจะเป็นอาหาร ยารักษาโรค เครื่องสำอาง พลังงาน เครื่องประดับ และของตกแต่ง เป็นต้น อาหารที่กินกันอยู่ทุกวันนี้มีหลายกลุ่มที่มาจากทะเล มาลองดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

ปลาทะเล
     ปลาเป็นอาหารทะเลกลุ่มแรกที่จะกล่าวถึง เป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพดี แถมยังจัดเป็นอาหารที่ย่อยง่าย เหมาะกับเด็กและผู้สูงอายุ ว่ากันว่ามีประชากรโลกนับพันล้านคนที่บริโภคปลาเป็นแหล่งหลักของเนื้อสัตว์ เพราะในปลามีโปรตีนประมาณร้อยละ 17 - 23 นอกเหนือจากโปรตีนแล้ว ปลาทะเลยังเป็นแหล่งที่สำคัญของกรดไขมันจำพวกโอเมก้า 3 อีกด้วย ได้แก่ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid หรือ DHA) และกรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid หรือ EPA) โดยมีการนำมาผลิตเป็นน้ำมันปลา (Fish oil) หรือสกัดมาเป็นกรดแต่ละตัวเลย แต่ถ้าเป็นน้ำมันตับปลาจะมีวิตามินเอและดีสูง ใช้เป็นอาหารเสริมมาตั้งแต่สมัยก่อน ปลาทะเลยังเป็นแหล่งของไอโอดีนซีลีเนียมและแร่ธาตุอื่นหากเป็นปลาที่กินได้ทั้งตัว (รวมก้าง) จะให้แคลเซียมและฟอสฟอรัสด้วย

กุ้ง หอย ปู และหมึก
     อาหารจากสัตว์ทะเลที่มีเปลือกหรือกระดอง หมึกจัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเพราะมีกระดองอยู่ข้างในตัว ทั้งหมดเป็นแหล่งของโปรตีนเช่นกัน รวมทั้งแร่ธาตุสำคัญที่กล่าวข้างต้น แถมยังเป็นแหล่งของธาตุสังกะสีซึ่งจำเป็นต่อผิวพรรณ กล้ามเนื้อ และการเจริญพันธุ์ (ข้อมูลไม่ยืนยันกล่าวว่าคาสซาโนวา นักรักผู้เลื่องชื่อในตำนานมักจะกินหอยนางรมถึงวันละ 50 ตัวเลยทีเดียว) ข้อจำกัดของการกินอาหารทะเลในกลุ่มนี้คือเรื่องของคอเลสเตอรอลที่พบในปริมาณมาก ยกเว้นในเนื้อปู (แต่ในมันปูมีเพียบ) ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 150 - 200 มิลลิกรัมต่ออาหาร 100 กรัม ถ้าเป็นหมึกจะสูงถึง 300 มิลลิกรัมเลยทีเดียว โดยนักโภชนาการแนะนำว่าในแต่ละวันไม่ควรกินอาหารให้ได้รับคอเลสเตอรอลเกิน 300 มิลลิกรัม

สาหร่ายทะเล
     สาหร่ายจัดเป็นอาหารอีกกลุ่มหนึ่งในจำพวกอาหารทะเลสายพันธุ์ที่ใช้บริโภคได้มีหลากหลาย  มีโปรตีน ใยอาหาร แร่ธาตุ ให้ไอโอดีนสูง และมีไขมันต่ำ นอกจากจะนำมาเป็นอาหารโดยตรงแล้ว ยังสามารถนำมาผลิตเป็นส่วนผสมที่ใช้ในอาหาร เช่น ผงวุ้น คาราจีแนน เป็นต้น ในอุตสาหกรรมอาหารมีการใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์อาหาร และใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร ทำหน้าที่ต่าง ๆ เช่น เพิ่มความข้นหนืดทำให้อาหารคงตัว ลดการเกิดผลึกน้ำแข็ง เป็นต้น

อาหารทะเลกับสุขภาพ    
     อาหารทะเลเป็นแหล่งที่ดีของโปรตีนและส่วนใหญ่จะมีไขมันไม่สูง การที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มโอเมก้า 3 มีการศึกษาถึงผลของการกินปลา (ทะเล) เป็นประจำกับการลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ อย่างเช่นในประชากรพื้นเมืองบางเผ่าที่บริโภคปลาในปริมาณมาก ปรากฎว่ามัอัตราการเกิดหัวใจวายน้อยกว่าประชากรกลุ่มอื่น จึงมีคำแนะนำให้กินปลาเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งก็จะเกิดผลดีต่อสุขภาพ นอกจากเรื่องของโรคหัวใจแล้ว การกินปลาทะเลชนิดที่มีโอเมก้า 3 เป็นประจำอาจช่วยบำรุงสมอง เพราะ DNA มีบทบาทในด้านการทำงานของสมอง สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการปวดบวมตามข้อ การกินอาหารทะเลเป็นประจำอาจมีส่วนช่วยลดอาการที่ว่านี้

     การจะกินอาหารทะเลให้เกิดประโยชน์เต็มที่ต้องไม่ลืมเรื่องของความสดสะอาดด้วย ความสดนอกจากจะทำให้อาหารมีรสชาติดีแล้ว ยังช่วยลดโอกาสของการเกิดอาหารเป็นพิษ เพราะสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคท้องเสีย ท้องเดิน ปวดท้องหลังการกินอาหารทะเล เนื่องมาจากอาหารไม่สด การเก็บรักษาไม่ถูกต้อง (แช่เย็นหรือแช่แข็ง) จึงเกิดการเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่ก่อโรค นอกจากนี้การประกอบอาหารอย่างถูกสุขลักษณะก็มีความสำคัญเช่นกัน อาหารทะเลบางชนิดอาจมีพิษโดยธรรมชาติ หรืออาจเกิดพิศเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น มลภาวะเป็นพิษ การปนเปื้อนของโลหะหนักพวกปรอทและแคดเมียม จึงต้องรู้เท่าทันสิ่งที่เราจะนำมากิน บางคนอาจแพ้อาหารทะเลจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ที่มา : นิตยสารแม่บ้าน ฉบับเดือนเมษายน 2554

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- ซอสปรุงรส [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- เลือดจระเข้ [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [18 เมษายน 2554 10:39 น.]
ดูทั้งหมด

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY