อะไรที่ซ่อนอยู่ในอาหารสำเร็จรูปของน้องตูบ(3)

สถิติผู้เข้าชม
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้	4
ผู้เข้าชมในวันนี้	265
ผู้เข้าชมทั้งหมด	5,204,159

กรุณาฝาก Email ของท่าน
เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ

25 เมษายน 2567
อา	จ.	อ.	พ.	พฤ	ศ.	ส.
	1	2	3	4	5	6
7	8	9	10	11	12	13
14	15	16	17	18	19	20
21	22	23	24	25	26	27
28	29	30

อะไรที่ซ่อนอยู่ในอาหารสำเร็จรูปของน้องตูบ(3)
[11 สิงหาคม 2553 10:23 น.]จำนวนผู้เข้าชม 4839 คน

อะไรที่ซ่อนอยู่ในอาหารสำเร็จรูปของน้องตูบ(3)

   สภาพภายในของโรงงานหลอมสกัดโปรตีน(by Gar Smith)

   อุตสาหกรรมแปรรูปหลอมสกัดโปรตีนเหล่านี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าเป็นอุตสาหกรรมเงียบ ทุกๆปีในสหรัฐอเมริกาโรงงานเหล่านี้จะทำการกำจัดของเสีย ซึ่งก็คือ ซากสัตว์ตาย ไขมันและเนื้อที่เน่าเสียมากกว่า 12.5 ล้านตัน/ปี

   ในบัลติมอร์ เมื่อได้มีการเข้าเยี่ยมชมและตรวจสภาพภายในโรงงานเหล่านั้นพบว่า ภายในภาชนะที่ใช้เพื่อบดเนื้อเยื่อก่อนที่จะทำการป่นนั้น ได้มีการบรรจุส่วนผสมต่างๆซึ่งมีตั้งแต่ ซากศพสุนัข แมว แรคคูน กวาง หมาป่า งู ไปจนถึงลูกช้างในคณะละครสัตว์

   ทุกๆเดือน คอกสัตว์ของเมืองบัลติมอร์ จะส่งซากสัตว์ตายมากกว่า 1,824 ตัว แก่โรงงานหลอมสกัดโปรตีนเหล่านั้น ปีที่ผ่านมาโรงงานได้ทำการแปรรูปวัตถุที่เน่าเปื่อย 150 ล้านปอนด์ไปเป็นไขมัน เนื้อและกระดูกป่น จำนวน 80 ล้านปอนด์ เมื่อสมัย 30 ปีที่แล้ว การหลอมสกัดโปรตีนส่วนใหญ่นั้นมาจากตลาดเล็กๆและโรงฆ่าสัตว์ แต่ในปัจจุบันการเพิ่มจำนวนของบรรดาร้านอาหารฟาสท์ ฟู้ดส์ เกือบครึ่งของวัตถุดิบเหล่านั้นคือน้ำมันที่อยู่ในครัว และน้ำมันที่ใช้สำหรับทอดอาหารที่ใช้แล้ว

   การนำซากสัตว์ต่างๆที่ตายแล้วหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ในรูปของอาหารสัตว์นั้น "เป็นเพียงส่วนเล็กมากๆของธุรกิจ และเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาป่าวประกาศ" นี่คือคำบอกเล่าของ นายสมิทธ์ กรรมการเจ้าของโรงงานที่ชื่อว่า Valley Proteins ที่ได้บอกกับทีมงานของเรา การที่โรงงานได้ทำการแปรรูปซากสัตว์เหล่านี้ เป็นเหมือนการบริการสังคม ไม่ใช่การแสวงหาผลกำไรใดๆทั้งสิ้น นาย สมิทธ์กล่าว "พวกซากสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นแทบจะไม่ได้มีปริมาณโปรตีนหรือไขมันอะไรเลย...มันเหมือนเป็นเพียงกลุ่มเส้นผมกลุ่มหนึ่งในบรรดาวัตถุดิบที่คุณต้องแปรรูปเท่านั้นเอง"

   หนังสือ City Paper ได้มีการรายงานโรงงานที่ตรวจพบแห่งนี้ได้ขายวัตถุดิบที่ถูกแปรรูปไปแล้วนั้นให้แก่บริษัท Alpo, Heinz and Ralston-Purina อย่างไรก็ตามโรงงานแห่งนี้ได้ยืนยันว่าทางโรงงานนั้นได้มีการแบ่งแยกไลด์การผลิตออกเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจนคือ ไลน์แรกนั้นมีไว้สำหรับเนื้อและกระดูกที่สะอาด ส่วนไลน์ที่สองนั้นมีไว้สำหรับซากของบรรดาสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า แต่ถึงกระนั้นทางโรงงานก็ได้ทำรายงานว่า วัตถุดิบที่เป็นโปรตีนที่ได้นั้นก็มาจากวัตถุดิบของทั้งสองไลน์มาผสมกัน ดังนั้นเนื้อและกระดูกป่นที่ได้ผลิตจากโรงงานแหล่งนี้มีส่วนผสมที่ทำจากสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่ารวมกันอยู่ด้วย และประมาณ 5% ของสินค้านี้จะถูกส่งขายไปยังบริษัทอาหารสัตว์ชนิดเม็ด

   ในปี 1991 USDA ได้รายงานว่า ประมาณ 7.9 ล้านปอนด์ของเนื้อและกระดูกป่น เลือดป่น และขนนกป่นที่ได้ถูกผลิตขึ้นมาในปี 1983... 34% ของวัตถุดิบจำนวนดังกล่าวจะถูกใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์... 34% จะใช้เป็นอาหารสัตว์ปีก... 20% จะกลายเป็นอาหารหมู และอีก 10% จะใช้ในการเลี้ยงโค กระบือ

   ท้ายสุดนี้หน่วยงาน TSE(Transmissible spongiform encephalopathy) ก็ได้มีการคาดการณ์ว่า จากที่เกิดเหตุการณ์โรควัวบ้าระบาดอยู่นั้น อาหารหมูและไก่มีความเสี่ยงที่จะมีส่วนผสมของเชื้อโรคนี้ และพบว่าอาหารสำเร็จรูปของสัตว์เลี้ยงตามบ้านเรือนนั้นมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเชื้อโรคนี้มากกว่า 3 เท่าของความเสี่ยงของเนื้อแฮมเบอเกอร์ของมนุษย์...

หมายเหตุ :  สิ่งที่นำมาเผยแพร่ในที่นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เป็นบทความจากนิตยสารฉบับหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับมลภาวะที่ซ่อนอยู่ในอาหารสำเร็จรูปของน้องตูบในบริษัทและโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานและถูกตรวจพบซึ่งได้ถูกดำเนินคดีและลงโทษตามกฏหมายของเขาไปแล้ว...ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีบริษัทหรือโรงงานอาหารสัตว์ที่ไม่ได้มาตรฐานแบบนี้ในประเทศไทยก็ได้...

คำเตือน

- เรื่องราวที่นำมาลงนี้แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในอดีต แต่ใครหล่ะที่จะสามารถยืนยันได้ว่ามูลเหตุของเรื่องแบบนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ไม่ว่าจะเป็นขณะนี้หรือวันข้างหน้า
- เนื้อหาเหล่านี้อาจทำให้ใครบางคนต้องย้อนกลับไปคิดถึงว่า อะไรคือสิ่งที่คุณนำมาให้สัตว์เลี้ยงสุดรักของคุณกิน และรวมถึงอาหารสำเร็จรูปที่คุณและครอบครัวกำลังบริโภคในปัจจุบัน...

ที่มาของบทความดีๆ : www.pantown.com