สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 2
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 447
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,196,907
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
18 เมษายน 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
 
10  11  12  13 
14  15  16  17  18  19  20 
21  22  23  24  25  26  27 
28  29  30         
             
 
ชีวิตมีค่า...ไยฆ่าชีวิต (3)
[28 มกราคม 2554 14:15 น.]จำนวนผู้เข้าชม 5785 คน
    
     คำว่า ชีวิตกับคุณค่าของชีวิต มีความหมายมากต่อการคิด หากเรามองแต่เพียงชีวิตอย่างเดียวอาจจะเด็ดทิ้งได้ง่าย แต่ถ้าเรามองคุณค่าของชีวิตประกอบไปด้วย เราจะมีสติทันที คุณค่าของชีวิตนั้นสำคัญมาก เพราะเป็นตัวความหมายที่แท้จริงเป็นสิ่งที่ทำให้คนเราแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หากเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ตัวชีวิตเหมือนกระดาษ ส่วนคุณค่าของชีวิตนั้นเหมือนข้อความที่เขียนลงบนกระดาษ คุณภาพของกระดาษอาจจะเท่ากัน แต่จะต่างกันได้ก็ที่ข้อความบนกระดาษแผ่นนั้น
     กระดาษที่มีคุณภาพต่ำแต่ถ้าเขียนข้อความที่มีคุณค่า เขียนด้วยลายมือของนักปราชญ์หรือเขียนโดยบุคคลสำคัญ กระดาษแผ่นนั้นก็มิใช่เศษกระดาษ หากแต่เป็นกระดาษที่ทวงคุณค่ามหาศาล
     ตรงกันข้ามแม้คุณภาพกระดาษจะดีแต่ถ้าเราเขียนสิ่งที่ไร้สาระเกิดโทษลงไปเสียแล้ว กระดาษแผ่นนั้นก็จะเป็นเพียงเศษกระดาษธรรมดาเท่านั้น
     ตัวชีวิตของคนและสัตว์มีความหมายเท่ากันเพราะเกิดแก่เจ็บตายเหมือนกัน แต่จะต่างกันก็ที่คุณค่าของชีวิตที่คนสร้างได้มากกว่าสัตว์ และคุณค่าของชีวิตนี้ย่อมอยู่ได้ยาวนานกว่าตัวชีวิต
     การฆ่าตัวตายใครได้อะไรจึงเป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าใครบ้างที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนคนหนึ่งที่เกิดมาและตายจากกันไป นับจากพ่อ แม่ ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงสถาบัน ความเป็นเชื้อชาติเผ่าพันธุ์เดียวกัน
     เนื่องจากองค์ประกอบของแต่ละชีวิตต่างกัน คนจึงคิดไม่เหมือนกันและมีปัญหาต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีเหมือนกัน ต้องการเหมือนกัน คือความรัก ความเอาใจใส่ใฝ่ถึง คนเราถ้ามีความรักเขาก็จะมองเห็นคุณค่าของชีวิต ถ้าสิ้นรักก็ดูเหมือนจะสิ้นลมหายใจกันทั้งเป็น
     การพยายามจะไม่มีชีวิตอยู่ของคนส่วนใหญ่จึงมักจะเกิดจากการขาดรัก ใจขาดรักก็เหมือนต้นไม้ที่ขาดปุ๋ย ขาดน้ำ วันหนึ่งก็เหี่ยวเฉาตาย แต่คำว่ารักในที่นี้ต้องเป็นรักที่ไม่ทำให้เกิดผลร้ายตามมา เป็นรักที่เปลี่ยนสภาพเป็นความเข้าใจได้ ความรักเหมือนอาหารที่รับประทานเข้าไป ส่วนความเข้าใจนั้นเหมือนอาหารที่ย่อยละเอียดแล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงเป็นพลังงานได้
     ผู้ไม่เปลี่ยนรักให้เป็นความเข้าใจจึงไม่ต่างกับคนที่รับประทานอาหารเข้าไปแล้ว แต่อาหารไม่ย่อย ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น
     การฆ่าตัวตายของคนบางพวกจึงเกิดจากเพราะย่อยอารมณ์ไม่ได้ เปรียบเสมือนร่างกายไม่สามารถย่อยอาหารได้กลายเป็นอาหารดิบที่ย่อยยากหรือมีก้างมีกากมากเกินไป ใจที่ขาดการยั้งคิดมักหาทางออกง่าย ๆ ไม่กล้าเผชิญชีวิตจริง สุดท้ายอารมณ์ก็กลบตัวปัญญา
     สิ่งเหล่านี้แท้จริงคือสัญลักษณ์ของคนที่ชอบทำตัวเป็นคนมักง่ายมาแต่ต้น ถูกตามใจให้เป็นคนประเภททำอะไรต้องตามใจฉัน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ เป็นคนหนีปัญหายุ่งยากไม่ยอมรับความจริงที่เกี่ยวกับตน
     เมื่อความจริงปรากฎ เขาจึงไม่สามารถยอมรับสิ่งนั้นได้ จึงต้องหาทางหลบลี้หนีชีวิตไปด้วยวิธีการต่าง ๆ เลวร้ายที่สุดก็คือทำลายชีวิต บางคนมิใช่ทำลายแต่ชีวิตตนเองเท่านั้น หากแต่ก้าวล่วงไปถึงชีวิตคนอื่นด้วย
     ทำไมเราไม่คิดบ้างว่า แม้คนพิกลพิการง่อยเปลี้ยเสียขาเขาก็ยังรักชีวิต ยังพอใจอยากจะอยู่ในโลกนี้ต่อไป ยังรู้สึกว่ามีความหวัง แต่คนดี ๆ หน้าตาดี ๆ สมองดี ๆ สติปัญญาดี ๆ ครอบครัวดี ๆ อย่างเรามีปัญหานิดเดียวกลับหันมาปลิดชีวิตตัวเองทิ้งเสมือนหนึ่งชีวิตเป็นผลไม้หรือดอกไม้ที่จะปลิดทิ้งเมื่อใดก็ได้
     ถามว่าคุ้มแล้วหรือกับการที่พ่อแม่ให้ชีวิตมา คุ้มแล้วหรือกับการที่พ่อแม่ได้ทุ่มเทความรักให้ด้วยชีวิตลงทุนชีวิตให้เรา สร้างทางเดินของชีวิตข้างหน้าไว้ให้มากมาย เราต้องตั้งสติให้มั่นอย่าหลงกลลวงของมารร้ายที่คอยกล่อมให้เราเดินผิดทาง
     การฆ่าตัวตายไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรให้กับใคร แม้ในทางพระพุทธศาสนาก็ถือเป็นบาปข้ามภพข้ามชาติ ที่ร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือทำบาปให้พ่อแม่ญาติพี่น้องวงศาคณาญาติ ทำให้เขามีความทุกข์ใจตลอดไป เราต้องไม่เอาคนอื่นมาเป็นเหตุต้องทำลายชีวิตตนเอง เราต้องดูถนอมรักษาตัวชีวิตด้วยความระมัดระวังด้วยสติปัญญา มิใช่ด้วยวาจาของคนอื่น
     บางคนฆ่าตัวตายเพื่อประชดคนรัก ถามว่าสมเหตุสมผลแล้วหรือ เขากับเราเพิ่งมาพบกันเมื่อภายหลังทำไมไม่คิดว่าเมื่อไปกันไม่ได้ก็หยุดเดินทางร่วมกันก็ได้ ดีกว่าจะหันหน้าเข้ามาเข่นฆ่ากัน หรือทำลายตนเองให้ตายตามกันแม้เหตุผลอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน เราต้องหยุดคิดตรงนี้ให้ได้ว่าเราทำถูกแล้วเหรอ
     การฆ่าตัวตายเป็นของง่ายนิดเดียว แต่การจะต่อชีวิตนั้นยากมาก เราต้องหัดคิดหัดทำในสิ่งที่ยากเอาไว้บ้าง จิตใจเราจะได้เข้มแข็งแกร่งกล้า มิใช่เห็นอะไรยากแล้ววิ่งหนี  ต่อเมื่อเห็นว่าง่ายแล้ววิ่งเข้าหา คนชนิดนี้ชีวิตจะมีแต่ปัญหาจะพบแต่ความทุกข์ระทมไม่สิ้นสุดเพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ว่าการได้ชีวิตเป็นของยาก การมีชีวิตอยู่ก็ยิ่งยากกว่าหลายเท่า
     เราต้องหัดเผชิญความยากลำบากไว้ เพื่อที่วันหนึ่งชีวิตเราพบอุปสรรคปัญหาหนัก จิตใจเราจะต้านทานความทุกข์นั้นได้ เหมือนคนที่หมั่นฝึกฝนตนให้เข้มแข็ง ออกกำลังกายตลอดเวลา ย่อมเอาชนะคนอ่อนแอได้ทุกการแข่งขัน ย่อมชนะโรคภัยไข้เจ็บได้
     ขอให้เยาวชนคนหนุ่มสาวที่รักทั้งหลายพึงคิดเสมอว่าถ้าเราไม่หัดทำ ไม่ฝึกหัดตัวเองให้คิดแก้ปัญหาในสิ่งที่ยากในชีวิตกระทั่งเป็นนิสัยแล้วเราก็จะเป็นคนทำอะไรตามใจชอบ สุดท้ายจะเป็นคนไร้กฎเกณฑ์ เอาตัวเองเป็นใหญ่ อยู่กับตัวเอง เมื่อใดความทุกข์มาเยือนก็จะไม่คิดแก้แต่จะคิดหลบหนีเช่นหนีตัวเองให้ได้ แล้วก็อาจเป็นเหตุให้ลงมือทำลายชีวิตได้ง่าย ๆ
     การหาทางออกเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาหากแต่เป็นวิธีสร้างปัญหา เพิ่มปัญหาที่ไม่มีวันจะเยียวยาแก้ไขได้
     เราตายไปแล้วก็จริง แต่ปัญหายังอยู่ เป็นทั้งปัญหาของคนที่อยู่เบื้องหลังเราอีกมากมายหลายสิบคนเป็นทั้งปัญหาที่เราจะต้องตามไปรับใช้ในเรื่องกฎแห่งกรรมซึ่งเป็นหลักแห่งความเป็นจริงทั้งในหลักพระพุทธศาสนาและในระบบธรรมชาติของชีวิต
     เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นที่เราทุกคนจะต้องหันหน้ามาหากัน เมื่อใครมีทุกข์ก็อย่าทอดทิ้งกัน คุยกันปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน
     สิ่งเหล่านี้อาจมีค่ากว่าทรัพย์สินเงินทองมหาศาล คำพูดเพียงคำเดียวอาจเป็นทิพยโอสถเยียวยาโรคร้าย อาจเป็นแสงสว่างส่องทางให้เขาก้าวเดินได้
     ขอให้ช่วยกันดูแลชีวิตคนใกล้เคียง ไต่ถามสุขทุกข์คนรอบข้าง มองโลกในแง่ดี มองเห็นเขาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขจริง ๆ การยื่นมือออกมาพยุงคนอ่อนแอให้ลุกขึ้นยืนได้เป็นสิ่งเดียวที่จะเยียวยาสังคมในยามวิกฤตเช่นนี้ อย่าปล่อยให้ใครต้องมาปลิดชีวิตด้วยคิดว่านั่นคือวิธีแก้ทุกข์อีกเลยเพราะนั่นเป็นวิธีเพิ่มทุกข์ก่อทุกข์ไม่รู้จักจบสิ้น

ที่มา : จากหนังสือ "ชีวิตมีค่า...ไยฆ่าชีวิต" โดย ปิยโสภณ

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- ซอสปรุงรส [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- เลือดจระเข้ [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [28 มกราคม 2554 14:15 น.]
ดูทั้งหมด

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY