สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 5
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 286
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,382,654
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
10 ตุลาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
  
10  11  12 
13  14  15  16  17  18  19 
20  21  22  23  24  25  26 
27  28  29  30  31     
             
 
การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย
[6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]จำนวนผู้เข้าชม 70381 คน
การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย


              ตัวอย่างค่าพีเอชของสารต่างๆ
 
   การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่ายน้ำคุณภาพดี ทำละลายสารอาหารเข้าสู่เซลได้ดี ทำให้ของดีเข้าสู่เซลได้มาก และสามารถนำของเสียออกจากเซลได้มาก เซลจึงแข็งแรงสมบูรณ์  สุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งคน สัตว์ และพืช ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับน้ำสะอาดที่มีความเหมาะสมกับเซล
 
คุณสมบัติน้ำด่าง


น้ำด่างเข้มข้นบรรจุขวดจากร้านของคุณลุงจำลอง ศรีเมือง ที่ศูนย์สมุนไพรซอยตรงข้ามลานจอดรถตลาด อตก.
ใช้ 2 ฝาต่อน้ำ 1 ลิตร...ถึงแม้จะเป็นน้ำด่างแต่ก็ยังไม่เป็นประจุลบ

 
๑. ช่วยเจือจางความเป็นกรดภายในร่างกาย
๒. ทำให้เซลล์ภายในร่างกาย เกิดความสมดุลและสุขภาพดี
๓. ทำให้ออกซิเจนในร่างกายสูง ช่วยให้กระบวนการสร้างพลังงานมากและเร็วขึ้น
๔. ต้านอนุมูลอิสระ
๕. ล้างสารพิษในร่างกาย
๖. ช่วยทำความสะอาดลำไส้ได้ดี
๗. ลดปัญหาโรคกระดูก ไขข้อเสื่อมและไขข้ออักเสบ
๘. ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดี
๙. ช่วยให้การดูดซึมอาหาร การเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น รวมทั้งเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
๑๐. เมื่อแปลงจากน้ำธรรมดา นอกจากเป็นน้ำพลังนาโนแล้ว ยังเพิ่มแร่ธาตุที่มีคุณประโยชน์ เช่น แคลเซียม แมงกานีส โปแตสเซียม และโซเดียม
๑๑. พลังประจุลบยังจับอนุมูลอิสระ (อนุมูลอิสระที่สะสมในร่างกายเป็นสาเหตุของการก่อโรคต่างๆ รวมทั้งโรคมะเร็งด้วย)
๑๒.สลายพิษอันเกิดจากแอลกอฮอล์และบุรี่)
๑๓. ด้วยคุณสมบัติที่เป็นตัวทำละลายอย่างดี การดื่มน้ำนาโนเป็นประจำ จึงป้องกันการเกิดนิ่วในไตหรือระบบปัสสาวะ
๑๔. สะเทิน ลม พิษ กรดในกระเพาะอาหาร ทำให้บรรเทาความจุกเสียดได้
๑๕. บรรเทาภาวการณ์เป็นกรดของร่างกาย (โรค Acidosis) ปรับแก้สุขภาพ


 
ขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ทำน้ำด่าง
 
ได้แก่....   กาบมะพร้าว (หรือต้นมะพร้าวใช้ได้ทุกส่วน)
                งวงตาล (หรือต้นตาลใช้ได้ทุกส่วน)
                ต้นกระถิน
                ต้นขี้เหล็ก
                ไม้ไผ่
(สรุปแล้ว ไม้เนื้ออ่อนทั้งหลายใช้ได้หมด)
 
โดยนำไม้ที่กล่าวไว้ข้างต้นชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็ได้ นำมาเผาให้เป็นขี้เถ้า  ร่อนด้วยตะแกรงแล้วนำขี้เถ้าใส่ในโอ่ง 
อัตราส่วน   :-     ขี้เถ้า ๑ กิโล ต่อน้ำ ๕ ลิตร   แช่ทิ้งไว้ประมาณ ๑๕ วัน จนน้ำตกตะกอนใส ใช้สายยางดูดแบบกาลักน้ำใส่ขวดหรือโอ่งเก็บไว้(ไม่ควรใส่ขวดพลาสติก) จะได้หัวน้ำด่างค่า pH. ประมาณ ๑๔
ขี้เถ้าที่เหลือ เติมน้ำ ๕ ลิตรหมักต่อได้อีก และจะทำแบบนี้อีกได้ประมาณ ๕ ครั้ง แต่ค่า pH. จะต่ำลงเรื่อยๆ ๑๓, ๑๒, ๑๑ เป็นต้น
วิธีผสมหัวน้ำด่างสำหรับดื่ม ใช้หัวน้ำด่างที่รองไว้แล้วผสมกับน้ำดื่มทั่วไป ให้ค่าของน้ำ pH. ๘.๕ เป็นมาตรฐาน  สิ่งจำเป็นที่ต้องมีคือกระดาษลิสมัต (pH-Indicator strips     ยี่ห้อ  Merck  ของ Germany จะมีตัวเลขบอกค่าละเอียด อ่านง่าย ในกล่องจะมี ๑๐๐ ชิ้น  ๑ชิ้น แบ่งเป็น ๒ จะได้เป็น ๒๐๐ ชิ้น ราคา ๓๐๐ บาท
ค่า pH (อังกฤษ: pH ย่อมาจาก Potential of Hydrogen ion) เป็นค่าที่แสดงความเป็นกรด เป็นเบสของสารเคมีจากปฏิกิริยาของไฮโดรเจนไอออน (H+) สามารถทดสอบได้หลายวิธี โดยวิธีที่นิยมและง่ายสุด คือ ทดสอบด้วยกระดาษลิตมัสจากการเปลี่ยนสี 
สำหรับตัวเลขที่แสดงค่า pH ถ้าพิจารณาอย่างง่ายที่อุณหภูมิห้อง ค่าเท่ากับ 7 แสดงว่าสารนั้นเป็นกลางไม่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือเบส เช่น น้ำบริสุทธิ์ ถ้ามีค่าน้อยกว่า 7 แสดงว่าเป็นกรด และถ้ามากกว่า 7 แสดงว่าเป็นเบส 
 
 
(จากคู่มือการอบรมโครงการฟื้้นฟูและส่งเสริมสุขภาพองค์รวม 8 อ. รวบรวมโดย อุ่นเอื้อ สิงห์คำ )


ชามะละกอก็มีที่ศูนย์สมุนไพรของคุณลุงจำลอง ศรีเมือง
 
ยาดองสมุนไพร 
   การรักษาโดยใช้สมุนไพร หรือที่เรียกว่า การรักษาแผนโบราณ ถ้าจะถามว่ามีมาแต่สมัยใดหรือเมื่อไร คงจะตอบยาก หรือตอบไม่ได้เลย  พระพุทธองค์ไม่ได้มีแต่ธรรมมะอย่างเดียวที่ตรัสสอนแนะนำพุทธบริษัทหากพระองค์ทรงเป็นแพทย์ด้วย รักษาพุทธบริษัททั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ใครประสบทุกข์ด้วยเรื่องใด ไม่ว่าทางด้านร่างกายและจิตใจ พระองค์ทรงรักษาหายหมด ซึ่งมีปรากฏในคัมภีร์ชาดกหลายต่อหลายแห่งด้วยกันแต่สำหรับในเรื่องนี้ 
 
   ผู้เขียนจะเขียนเรื่องยาดองสมุนไพรที่พระองค์ทรงประทานไว้แก่ภิกษุ เมื่อเกิดอาพาธ และภิกษุ-สามเณร ที่บวชในพุทธศาสนานี้ จะต้องศึกษาในเบื้องต้น นั่นก็คือ อนุศาสน์ 8 อย่าง มีนิสัย 4, อกรณียกิจ 4, นิสัย 4 ก็มี 
1. เที่ยวบิณฑบาต 
2. อยู่โคนต้นไม้ 
3. นุ่งห่มผ้าบังสุกุล และ 
4. ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า

   สามข้อแรกข้างต้น ผู้เขียนจะไม่เขียนถึง จะเขียนเฉพาะข้อที่ 4 คือ ฉันยาดองด้วยน้ำมูตรเน่า ผู้อ่านอาจจะสงสัยว่า เอ๊!...ยาดองชนิดนี้มันอะไรกัน ไม่ต้องสงสัยหรอก ผู้เขียนจะพยายามเขียนสั้นๆให้เข้าใจง่าย ๆ พระพุทธองค์ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย เมื่อพวกเธออาพาตไม่สบาย จงทำยาดองด้วยลูกมะขามป้อมและลูกสมอ ซึ่งพวกเธอนำลูกมะขามป้อมและลูกสมอมาทุบให้แตกแล้วใส่ลงในภาชนะและถ่ายปัสสาวะลงไปในภาชนะนั้น แช่ไว้ประมาณ 7 วัน แล้วก็เอามาฉัน อาพาธของเธอก็จะหายนี่แหละ ยาดองสมุนไพรที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสแนะนำภิกษุสงฆ์สาวกของพระองค์ก่อนที่จะเขียนต่อไปถึงเรื่องวิธีทำ ผู้เขียนใคร่จะเขียนถึงสรรพคุณของลูกมะขามป้อมและลูกสมอสักเล็กน้อย เพื่อผู้อ่านจะได้เข้าใจถึงสรรพคุณยาดองสมุนไพรขนานนี้ ว่าใช้แก้โรคอะไรได้บ้าง
   ลูกมะขามป้อม รสฝาดเปรี้ยว แก้เสมหะ ทำให้ชุ่มคอดี แก้ไข้
   ลูกสมอไทยอ่อน รสเปรี้ยว แก้โลหิตในท้อง แก้น้ำดี แก้เสมหะ ระบายอุจจาระลูกสมอไทยแก่รสเปรี้ยวฝาด ขม แก้ไข้เพื่อลม แก้เสมหะ แก้ไข้เพื่อเสมหะท่านผู้อ่านก็พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า ยาดองด้วยน้ำมูตรเน่าใช้แก้โรคอะไร และยาขนานนี้ถ้าสรรพคุณไม่ดีจริงพระพุทธองค์ก็คงจะไม่ตรัสสอนแนะนำให้ภิกษุทำใช้ทำฉัน
   วิธีทำก็ไม่ยากเพียงแต่ท่านนำลูกมะขามป้อมแก่มาสัก 9 ลู หรือมากกว่านี้ก็ได้ แล้วทุบให้แตก ใส่ลงไปในขวดหรือในโหล แล้วก็นำลูกสมอไทยแก่มาเท่ากัน ทุบให้แตกอีกเช่นกัน ใส่ลงไปในขวดหรือในโหลอันเดียวกัน แล้วท่านก่ายปัสสาวะลงไปในขวดหรือโหลนั้น ประมาณสัก 2 หรือ 3 ครั้ง เอาจนท่วมลูกมะขามและลูกสมอ แล้วทิ้งไว้สัก 7 หรือ 9 วันก็ได้ยิ่งเขย่าขวดได้ทุกวันยิ่งดี

   เรื่องกลิ่น ธรรมดาว่า ปัสสาวะของคนเราจะเหม็นสาบ แต่ท่านไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องกลิ่นว่าจะเหม็นสาบอยู่เช่นเดิม ตรงกันข้าม คือไม่มีกลิ่นปัสสาวะเลย แถมจะมีกลิ่นหอมของมะขามป้อมและสมอเสียด้วยเรื่องสี ธรรมดาว่า ปัสสาวะของคนเราจะมีสีต่างๆกัน บางคนก็มีปัสสาวะสีใส บางคนก็สีชา อันนี้ท่านก็ไม่ต้องวิตกกังวลอีก ลูกมะขามป้อมและลูกสมอมันจะกันสีเหล่านั้นให้หายไปหมด จะกลายเป็นสีใสแจ๋วไปเลย สีใสยิ่งเสียกว่าน้ำฝนอีก ถ้าไม่เชื่อก็ขอให้ลองทำดู ว่าจะเป็นอย่างที่ผู้เขียนเขียนมาหรือไม่ ประหยัดไม่ต้องลงทุนให้เสียเงินเลยผู้เขียนเองก็เคยทำฉันมาแล้วหลายครั้ง และก็ไม่ได้ฉันผู้เดียวด้วย พระ-เณร หลายองค์ก็พลอยได้ฉันน้ำปัสสาวะของผู้เขียนสบายไปหลายองค์ เรื่องสรรพคุณเห็นทีจะไม่ต้องบอกก็ได้ใช่ไหม ว่าแก้โรคอะไร สงสัยอ่านทวนอีกครั้งหนึ่ง


น้ำด่างเข้มข้นผลิตตามวิธีโบราณและชามะละกอที่ศูนย์สมุนไพรของคุณลุง จำลอง ศรีเมือง

   โดยเฉพาะอ่านเรื่องสรรพคุณของลูกมะขามป้อมและลูกสมอไทย ท่านก็จะเข้าใจเองขนาดที่กิน กินก่อนอาหารครั้งละประมาณถ้วยชาจีน (ประมาณ 8 ถึง 10 ช้อนชา) ฆราวาสก็ทำกินรักษาโรคได้ ไม่เฉพาะแต่ภิกษุ-สามเณร ที่ผู้เขียนเขียนมานี้ ขอท่านทั้งหลายอย่าเพิ่งหลงเชื่อง่ายๆขอให้ทดลองทำดูเสียก่อน ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขียนแล้ว ถึงค่อยเชื่อ เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ไม่ให้เชื่อใครหรืออะไรง่ายๆขอให้พิจารณาให้เห็นจริงแล้วถึงค่อยเชื่อ...
 
 
ขอขอบคุณที่มาของภาพและบทความ :

[ +zoom ]
ตัวอย่างค่าพีเอชของสารต่างๆ

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
สาระความรู้ทั่วไปสำหรับเจ้าของน้องตูบ
- อาหารแสลง ที่ควรเลี่ยงเมื่อป่วย [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- พืชขาดธาตุอาหารอะไร ?..ใส่ใจสักนิด... [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- ปวดท้อง...ลางบอกโรคร้ายของคุณ [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยง จากโรคมะเร็ง [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- ซอสปรุงรส [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- รู้จักไหม?...“ต้นผึ้ง” มีหนึ่งเดียวที่ราชบุรี [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- เลือดจระเข้ [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- การทำน้ำด่าง (อัลคาไลน์) สำหรับดื่มอย่างง่าย [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- กิน ‘สมอ’ ดีเสมอ [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
- ปัสสาวะหลวงพ่อ [6 พฤศจิกายน 2555 13:37 น.]
ดูทั้งหมด

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY