สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 2
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 1,308
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,175,261
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
28 มีนาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
     
10  11  12  13  14  15  16 
17  18  19  20  21  22  23 
24  25  26  27  28  29  30 
31             
 
ผักไผ่ (ผักแพว)
[12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]จำนวนผู้เข้าชม 8528 คน

ผักไผ่ (ผักแพว)



      
ผักไผ่เป็นไม้ล้มลุก สูง 20-35 ซม. ลำต้นตั้งตรง มีข้อเห็นชัดเจนเป็นระยะ ๆ บริเวณข้อมักมีรากออกมา ใบเป็นใบเดี่ยว ออกแบบสลับรูปร่างใบเป็นรูปหอกแกมรูปไข่ขอบใบเรียบ ปลายไปแหลม ก้านใบสั้น ใบกว้าง 2.6-3 ซม. ยาว 5.5-8 ซม. มีหูใบลักษณะเป็นปลอกหุ้มรอบลำต้นบริเวณเหนือข้อดอกสีขาวออกเป็นช่อแบบ raceme ที่ปลาย ดอกย่อยมีขนาดเล็ก เกสรตัวผู้มี 5 อัน เรียงตัวอยู่รอบ ๆ เกสรตัวผู้มี 5 อัน เรียงตัวอยู่รอบ ๆ เกสรตัวเมีย รังไข่แบบ inferior ovaryตำนาน ความเจากการบอกเล่าของหมอเมืองกล่าวไว้ว่า สาเหตุที่เรียกผักชนิดนี้ว่า “ผักไผ่” เพราะว่าใบมีลักษณะคล้ายใบไผ่ จึงเรียกชื่อนี้จวบจนถึงปัจจุบันการปลูกและขยายพันธุ   ผักไผ่เป็นไม้ที่พบขึ้นตามที่ราบชุ่มชื้นมีร่มเงา ตามบ้านหรือบริเวณริมน้ำลำธารที่มีความความชื้นสูง ตามสวนทั่วไปขยายพันธุ์โดยการนำต้นอ่อนแยกไปเพาะปลูก หรือใช้ลำต้นปักชำ เมื่อดินมีความอุดมสมบูรณ์และความชื้นเพียงพอดีแล้ว จะทำให้ออกยอดตลอดปีและออกดอกเดือนมิถุนายน-สิงหาคมโยชน์ทางยา

ใบ รสเผ็ด ใช้รักษาโรคตับแข็ง แก้ลม-ขับลมในกระเพาะ ช่วยเจริญอาหาร หรือนำใบมาตำให้ละเอียดทาแก้ตุ่ม ผื่นคัน โรคกลากเกลื้อน รักษาโรคหวัด รวมทั้งรักษาโรคตัวจี๊ด แต่ต้องรับประทานติดต่อกัน 5-8 วันริกผักจิ้ม

ชาวเหนือนิยมรับประทานกับน้ำพริกหนุ่มน้ำพริกปลาาหารอื่นๆ

ยอดอ่อน และใบอ่อน นิยมรับประทานเป็นผักสด หรือเป็นเครื่องปรุงรสอาหารพื้นบ้าน หรืออาหารที่มีรสจัด เช่น ลาบ ส้า หลู้เลือด ก้อย (กุ้งสด) อาหารจำพวกยำชนิดต่างๆ เช่น ยำผัก ยำเห็ดเฟือง ยำจิ๊นไก่ ยำไก่ใส่หัวปลี ยำกบ ยำปลา เป็นต้น

ผักไผ่มีกลิ่นหอมฉุน จึงมักใช้เป็นเครื่องปรุงรสหรือช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เช่นใส่กับลาบ แกง ส่วนชาวใต้มักซอยใส่ในข้าวยำ โดยซอยตามขวางเป็นชิ้นเล็ก ๆ อาจใส่เป็นผักสดหรือต้มให้สุกก่อนก็ได้ค่าทางโภชนาการต่อสุขภาพ

ผักไผ่ 100 กรัม ให้พลังงานแก่ร่างกาย 54 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย โปรตีน 4.7 กรัม ไขมัน 0.5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 7.7 กรัม แคลเซียม 79 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 272 มิลลิกรัม เหล็ก 2.9 มิลลิกรัม วิตามิน A 8112 IU. วิตามิน B1 0.05 มิลลิกรัม วิตามิน B2 0.59 มิลลิกรัม ไนอาซิน 1.7 มิลลิกรัม วิตามิน C 77 มิลลิกรัม 

ที่มา :
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=free4u&month=28-10-2009&group=82&gblog=12


[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
พืชผักสวนครัวและผลไม้ไทย
- ลำพู [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- มะเดื่อฝรั่ง(Fig) [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- หน่อกะลา ถือเป็น ผักพื้นบ้าน ของ เกาะเกร็ด [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- ต้นอ้อดิบ(ต้นคูน) [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- ทุเรียนน้ำ...ทุเรียนเทศ...ทุเรียนแขก [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- ดอกดาวเรืองกินได้ทั้งดอกและยอด [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- ตะลิงปลิง...ผลไม้สุดเปรี้ยว...นี่ก็อีกต้นที่ปลูกหน้าบ้าน [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- สัปปะรด พันธุ์เพชรบุรีที่กินได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- ผักหนาม [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
- ต้นสาคู [12 กรกฎาคม 2554 14:02 น.]
ดูทั้งหมด

  แสดงความคิดเห็น

ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวขีดกลาง ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา รูปภาพ ลิ้งก์ ขนาดต้วอักษร สีต้วอักษร

ชื่อ: *
E-mail : *
ไม่ต้องการแสดง Email
รหัสตรวจสอบ : Security Image
* กรุณากรอกรหัสที่อยู่ในรูป

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY