สถิติผู้เข้าชม
 ขณะนี้มีผู้เข้าใช้ 7
 ผู้เข้าชมในวันนี้ 1,304
 ผู้เข้าชมทั้งหมด 5,176,629
กรุณาฝาก Email ของท่าน
  เพื่อรับข่าวสาร ที่น่าสนใจ
29 มีนาคม 2567
อา จ. อ. พ. พฤ ศ. ส.
     
10  11  12  13  14  15  16 
17  18  19  20  21  22  23 
24  25  26  27  28  29  30 
31             
 
ดอกกระดังงา
[22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]จำนวนผู้เข้าชม 5986 คน

ดอกกระดังงา


     จัดเป็นพืชสมุนไพรไทย ใช้ดอกเป็นตัวยาชนิดหนึ่งในตัวยาที่มีกลิ่นหอมหลายชนิด ปรุงเป็นยาหอมบำรุงหัวใจ บำรุงระบบประสาท ภูมิปัญญาไทย ใช้ดอกสดแช่ในน้ำมันมะพร้าว ทำเป็นน้ำมันใส่ผม

ประเทศอินโดนีเซียใช้ดอกโรยบนเตียงสำหรับคู่แต่งงานใหม่ๆ

ชาวเกาะ Molucca ใช้น้ำมันจากดอกกระดังงาบำรุงผิวและผม

กระดังงาในบ้านเราที่รู้จักมี 2 อย่างคือ กระดังงาไทย และกระดังงาสงขลา ที่นิยมนำดอกมาสกัดน้ำมันหอมระเหยคือกระดังงาสงขลา ซึ่งมีกลีบดอกมากกว่าและยาวกว่ากระดังงาไทย

น้ำมันหอมระเหยจากดอกกระดังงานิยมใช้เพื่อผ่อนคลายความเครียด ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ ช่วยลดอาการท้อแท้หดหู่ ลดความดันโลหิตสูง น้ำมันนวดตัวซึ่งผสมน้ำมันหอมระเหยจากดอกกระดังงา ยังใช้เพื่อกระตุ้นกำหนัดด้วย

สำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ เนื่องจากความเครียด การดื่มยาหอมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรหอมนานาชนิด จึงช่วยให้นอนหลับสนิทได้ดีขึ้น

ชื่อพื้นเมือง :
กระดังงา (ตรัง, ยะลา), กระดังงาไทย กระดังงาใบใหญ่ กระดังงาใหญ่ (ภาคกลาง), สะบันงา สะบันงาต้น (ภาคเหนือ)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cananga odorata (Lamk.) Hook.f. et Th.

ชื่อวงศ์ : ANNONACEAE

ชื่อสามัญ : Ylang-ylang Tree

ลักษณะ : ไม้ต้น สูง 10-20 ม. มีรอยแผลใบขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วไป กิ่งตั้งฉากกับลำต้นปลายย้อยลู่ลง ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีหรือรูปไข่ยาว ปลายแหลม โคนมนหรือเว้าและเบี้ยวเล็กน้อย ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น ใบอ่อนมีขนทั้ง 2 ด้าน ใบแก่มักมีขนมากตามเส้นแขนงใบและเส้นกลางใบ ช่อดอกสั้น ออกห้อยรวมกันบนกิ่งเหนือรอยแผลใบ ช่อหนึ่งๆ มี 3-6 ดอก ดอกใหญ่ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ รูปสามเหลี่ยม มีขน กลีบดอกเรียงสลับกัน 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ แต่ละกลีบรูปขอบขนานปลายแหลม มีขน ขอบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย กลีบชั้นในแคบกว่าชั้นนอกเล็กน้อย โคนกลีบด้านในสีม่วงอมน้ำตาล ดอกอ่อนกลีบสีเขียว เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง กลิ่นหอม เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก เกสรเพศเมียมีหลายอัน อยู่แยกกัน ผลเป็นผลกลุ่ม อยู่บนแกนตุ้มกลม 4-15 ผล แต่ละผลรูปไข่ ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีเขียวคล้ำจนเกือบดำ มี 2-12 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน รูปไข่แบน

ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ
ไทยใช้ดอกกระดังงาปรุงยาบางตำรับเพื่อแก้ลมและบำรุงเลือด ใบและเนื้อไม้ต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ นอกจากนี้ ยังใช้อบน้ำทำน้ำเชื่อมและปรุงขนมหวานบางชนิด อินโดนีเซียใช้เปลือกแก้คัน มาเลเซียใช้ใบแก้คัน และใช้ดอกปรุงในยารักษาโรคหืด

ที่มา :  http://www.rspg.or.th/plants_data/plantdat/annonace/codora_1.htm
            http://thaiherbclinic.com/node/76


[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]

[ +zoom ]
พืชผักสวนครัวและผลไม้ไทย
- ลำพู [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- มะเดื่อฝรั่ง(Fig) [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- หน่อกะลา ถือเป็น ผักพื้นบ้าน ของ เกาะเกร็ด [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- ต้นอ้อดิบ(ต้นคูน) [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- ทุเรียนน้ำ...ทุเรียนเทศ...ทุเรียนแขก [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- ดอกดาวเรืองกินได้ทั้งดอกและยอด [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- ตะลิงปลิง...ผลไม้สุดเปรี้ยว...นี่ก็อีกต้นที่ปลูกหน้าบ้าน [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- สัปปะรด พันธุ์เพชรบุรีที่กินได้โดยไม่ต้องปอกเปลือก [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- ผักหนาม [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
- ต้นสาคู [22 มิถุนายน 2554 15:04 น.]
ดูทั้งหมด

  แสดงความคิดเห็น

ตัวหนา ตัวเอียง ตัวขีดเส้นใต้ ตัวขีดกลาง ชิดซ้าย กึ่งกลาง ชิดขวา รูปภาพ ลิ้งก์ ขนาดต้วอักษร สีต้วอักษร

ชื่อ: *
E-mail : *
ไม่ต้องการแสดง Email
รหัสตรวจสอบ : Security Image
* กรุณากรอกรหัสที่อยู่ในรูป

Copyright@2010 by www.nongtoob.com All right reserved.
Engine by MAKEWEBEASY