|
กุหลาบมอญ
กุหลาบมอญ ดอกไม้ดอกเล็กๆที่แสนจะบอบบาง ทั้งกลิ่นหอมรัญจวนใจ ชื่อกุหลาบชนิดนี้บ่งบอกที่มาว่า แรกเริ่มคงนำมาจากเมืองมอญ และหลักฐานหนึ่งเชื่อกันว่า เป็นดอกไม้ที่ทรงโปรดของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระองค์ท่านทรงนำกลับมาหลังจากเสร็จสงครามที่เมืองมอญ กุหลาบมอญนี้เข้าใจว่าเป็นของทวีปเอเชียภาคตะวันออก มีปลูกในอินเดียมานานมากก่อนที่จะมีปลูกในเมืองไทย
กุหลาบมอญเป็นไม้ดอกประเภทไม้พุ่มผลัดใบ ลำต้นตั้งตรง กิ่งก้านมีหนาม พุ่มสูงประมาณ 2-3 เมตร อายุยืน แข็งแรง เป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดจัดอย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง จึงควรปลูกในที่โล่งแจ้งแต่ควรเป็นที่อับลม ขึ้นได้ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์พอ ชอบน้ำ แต่ไม่ชอบน้ำขัง ดินจึงต้องระบายน้ำได้ดี ชอบอากาศร้อนในตอนกลางวัน และอากาศเย็นในตอนกลางคืน กุหลาบมอญนี้ถือได้ว่าเป็นกุหลาบพื้นเมืองของไทย ใบเป็นใบประกอบชนิดขนนก มีหูใบ 1 คู่ มีใบย่อย 3-5 ใบ ในก้านช่อใบหนึ่ง ๆ ใบจัดเรียงแบบสลับ ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน มีรอยย่นเล็กน้อย ขอบใบเป็นจักละเอียด เส้นกลางใบด้านท้องใบมีหนามห่าง ๆ
ดอกมีลักษณะค่อนข้างกลม กลับดอกเรียงซ้อนกันหลายชั้น วนออกนอกเป็นรัศมีโดยรอบ ดอกมีสีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม สีขาว ดอกมักออกเป็นช่อ ทางปลายกิ่ง กลีบดอกมีลักษณะปลายแหลมเรียว ออกดอกตลอดทั้งปี นอกจากกุหลาบมอญจะเป็นไม้ดอกที่สวยงามแล้วยังสามารถนำมาบริโภคได้ โดยใช้กลีบดอกสด แช่ลอยน้ำสำหรับทำขนม แต่งหน้าขนมประเภทตะโก้ หรือใช้กลีบดอกยำทำเป็นอาหาร ดอกแห้งใช้ชงเป็นชา กลีบดอกมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงหัวใจ แก้อ่อนเพลีย และช่วยระบายด้วย
สำหรับเมนูที่จะแนะนำ คือ ยำกุหลาบ ที่ส่วนใหญ่จะใช้กลีบดอกมาเป็นส่วนผสมหลัก ที่ทั้งอร่อยแล้วยังได้คุณค่าทางสมุนไพรด้วย
ยำกุหลาบ นิยมยำกลีบกุหลาบรวมกับเนื้อกุ้ง ไก่ หรือหมูสับ ปรุงน้ำยำด้วยพริกชี้ฟ้า กระเทียม และรากผักชีโขลกระเอียด เคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาล น้ำปลา เน้นรสหวานกับเปรี้ยว
เพียงเท่านี้เราก็จะได้ยำกุหลาบจานเด็ด รสชาติกลมกล่อมหวานอมเปรี้ยว ที่พร้อมสรรพไปด้วยประโยชน์ทางยา ส่วนเมนูต่อไปเป็นเมนูที่ช่วยผ่อนคลายระหว่างมื้ออาหาร นั่นก็คือชากุหลาบนั่นเอง
ชากุหลาบ วิธีทำจะต้องต้มน้ำรอไว้ หลังจากนั้นใส่กลีบกุหลาบแห้งประมาณหนึ่งช้อนชาลงไปในถ้วย (หรือจะใส่ในถุงชาก่อนก็ได้) เมื่อน้ำเดือด ให้เทน้ำร้อนตามลงไป เพิ่มความหวานตามชอบ
สิ่งที่ควรระวัง คือ หลีกเลี่ยงกุหลาบที่ไม่ได้ปลูกเอง เพราะอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตราย ตกค้างอยู่ดอกกุหลาบ ตามธรรมชาติแล้วจะมีรสฝาด เมื่อนำมาประกอบอาหารควรกลบรสฝาดด้วยมะนาวหรือเกลือ เพื่อให้หายเฝื่อน
ใครที่อ่อนเพลียเหนื่อยล้าจากการทำงานก็สามารถทดลองทำเมนูเพื่อสุขภาพนี้ได้ คุณอาจจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องดื่มบำรุงกำลังอีกต่อไป
ที่มา : http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/6574
|
ขณะนี้มีผู้เข้าใช้
ผู้เข้าชมในวันนี้
